บาคาร่า เกมพนันไพ่ที่ได้รับความนิยมจากนักพนันทั่วโลก เพราะเป็นเกมที่ไม่ว่าใครก็สามารถเล่นได้ ไม่มีเงื่อนไขที่ซับซ้อน แถมยังสามารถทำกำไรได้ทันทีที่เข้าเล่น แต่ก็ยังมีนักพนันหลายๆคน ที่เล่นบาคาร่าออนไลน์ แล้วไม่สามารถทำกำไรได้เท่าที่ควร ซึ่งในวันนี้ทาง UFABET มีคำตอบ และ คำแนะนำดีๆ สำหรับนักพนัน ที่ต้องการทำกำไร จากการเล่นบาคาร่าออนไลน์

ว่าเล่นยังไง ถึงสามารถทำเงินได้จริง โดยเราได้ทำการหาข้อมูล และ เทคนิคการเล่นต่างๆ มาจากเหล่าเซียนพนัน ที่มีประสบการณ์จากการเล่นบาคาร่าออนไลน์ เพื่อให้นักพนันทุกๆท่าน ได้ใช้เป็นแนวทาง สำหรับทำกำไรจากการเล่นบาคาร่าออนไลน์ กับเว็บไซต์ของเรา แต่ก่อนจะไปถึงเรื่องเทคนิค หรือ สูตรต่างๆ ของการเล่นบาคาร่า เรามาดูกันก่อนว่า เกมบาคาร่าออนไลน์ นั้นมีวิธีการเล่น และ เงื่อนไขต่างๆอย่างไรบ้าง เพื่อเป็นแนวทางให้กับนักพนันมือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์

วิธีเล่น บาคาร่า และ เงื่อนไขการเดิมพันต่างๆ ที่นักพนันควรรู้ 

บาคาร่า คือเกมพนันไพ่ที่มีกติกา และ เงื่อนไขการเดิมพัน คล้ายๆกับการเล่น ไพ่ป๊อกเด้ง ซึ่งจะมีการนับแต้มไพ่ก็คือ A เท่ากับ 1 แต้ม 2,3,4,5,6,7,8,9 ตามจำนวนตัวเลขบนไพ่ และ 10,K,Q,J จะเท่ากับ 0 แต้ม โดยจะเริ่มจากการที่ดีลเลอร์ แจกไพ่ให้กับฝั่งผู้เล่น (PLAYER) และ ฝั่งเจ้ามือ (BANKER) ฝั่งละ 2 ใบ โดยจะนับแต้มรวมของไพ่ทั้ง 2 ใบ หากฝั่งใดมีแต้มสูงกว่า ก็จะเป็นฝ่ายชนะเดิมพันทันที

และจะมีการเรียกไพ่ใบที่ 3 ของการ เล่นบาคาร่าออนไลน์ หากแต้มรวมของไพ่ทั้ง 2 ใบ ของฝั่งผู้เล่น หรือ เจ้ามือ มีจำนวนแต้มน้อยกว่า หรือเท่ากับ 5 แต้ม โดยจะมีกรณีที่แตกต่างกันเล็กน้อย ระหว่างฝั่งผู้เล่น และ ฝั่งเจ้ามือดังนี้

การเรียกไพ่ใบที่ 3 ในกรณีของฝั่งผู้เล่น

• เมื่อแต้มรวมของไพ่ทั้ง 2 ใบเท่ากับ หรือ น้อยกว่า 5 แต้ม จะมีการเรียกไพ่ใบที่ 3 เพื่อตัดสินผลแพ้ชนะ
• เมื่อแต้มรวมของไพ่ทั้ง 2 ใบเท่ากับ 6 – 7 แต้ม ไม่จำเป็นต้องเรียกไพ่ใบที่ 3
• เมื่อแต้มรวมของไพ่ทั้ง 2 ใบเท่ากับ 8 – 9 แต้ม เท่ากับชนะเดิมพันทันที จะไม่มีการเรียกไพ่ใบที่ 3 ทั้งฝั่งผู้เล่น และ ฝั่งเจ้ามือ

การเรียกไพ่ใบที่ 3 ในกรณีของฝั่งเจ้ามือ 

• เมื่อแต้มรวมของไพ่ทั้ง 2 ใบ เท่ากับ หรือ น้อยกว่า 5 แต้ม จะมีการเรียกไพ่ใบที่ 3 เพื่อตัดสินผลแพ้ชนะ (แต่ต้องสังเกตไพ่ในฝั่งของผู้เล่นด้วย หากมีแต้มน้อยกว่า หรือ เท่ากับ 5 แต้ม ก็จะสามารถเรียกไพ่ใบที่ 3 ได้ แต่ถ้าหากฝั่งผู้เล่น มีแต้ม 6 – 7 แต้ม จะถือว่าฝั่งผู้เล่นชนะทันที)
• เมื่อแต้มรวมของไพ่ทั้ง 2 ใบเท่ากับ 6 – 7 แต้ม ไม่จำเป็นต้องเรียกไพ่ใบที่ 3
• เมื่อแต้มรวมของไพ่ทั้ง 2 ใบเท่ากับ 8 – 9 แต้ม เท่ากับชนะทันที จะไม่มีการเรียกไพ่ใบที่ 3 ทั้งฝั่งผู้เล่น และ ฝั่งเจ้ามือ

รูปแบบการเดิมพัน และ อัตราการจ่ายเงินรางวัล

• PLAYER คือการเลือกเดิมพันในฝั่งผู้เล่น โดยจะมีอัตราจ่ายรางวัลคิดเป็น 1:1
  ยกตัวอย่างเช่น นักพนันวางเดิมพัน 1 เท่า ชนะได้ 1 เท่า แพ้เสีย 1 เท่า
• BANKER คือการเลือกเดิมพันในฝั่งเจ้ามือ โดยจะมีอัตราจ่ายรางวัลคิดเป็น 0.95:1
  ยกตัวอย่างเช่น นักพนันวางเดิมพัน 1 เท่า ชนะได้ 0.95 เท่า แพ้เสีย 1 เท่า
• TIE คือการเลือกเดิมพันระหว่างกลาง หรือ ทั้งฝั่งผู้เล่น และ เจ้ามือ จะเสมอกัน โดยจะมีอัตราจ่ายรางวัลคิดเป็น 8:1
  ยกตัวอย่างเช่น นักพนันวางเดิมพัน 1 เท่า ชนะได้ 8 เท่า แพ้เสีย 1 เท่า
• PAIR คือการเลือกเดิมพันว่า ฝั่งที่ชนะ จะชนะโดยการออกไพ่คู่ โดยจะมีอัตราจ่ายรางวัลคิดเป็น 11:1
  ยกตัวอย่างเช่น นักพนันวางเดิมพัน 1 เท่า ชนะได้ 11 เท่า แพ้เสีย 1 เท่า โดยจะแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ PLAYER PAIR (ไพ่คู่ในฝั่งผู้เล่น) และ BANKER PAIR (ไพ่คู่ในฝั่งเจ้ามือ)
• NATURAL คือการเลือกเดิมพันว่า ฝั่งที่ชนะ จะชนะด้วยไพ่ 8 หรือ 9 แต้ม โดยมีอัตราจ่ายรางวัลคิดเป็น 7:2
  ยกตัวอย่างเช่น นักพนันวางเดิมพัน 1 เท่า ชนะได้ 7 เท่า แพ้เสีย 2 เท่า โดยจะแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ PLAYER NATURAL และ BANKER NATURAL

และนี่คือรูปแบบการเดิมพัน และ อัตราจ่ายเงินรางวัลต่างๆ ของการเล่นบาคาร่าออนไลน์ และถ้าหากนักพนันท่านใด ที่ต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับ เทคนิคเล่น บาคาร่า ก็สามารถค้นหาข้อมูล และ ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ www.ufa888.info เว็บไซต์หลักของ UFABET888 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และสุดท้ายนี้เราอยากให้นักพนันทุกๆท่าน เล่นพนันอย่างมีสติ และเล่นเพื่อความสนุก ไม่ควรนำทุกสิ่งทุกอย่าง มาทุ่มให้กับการเล่นพนัน เพราะอาจทำให้คุณ ต้องเสียใจในภายหลัง กับการตัดสินใจที่ผิดพลาดของคุณ